ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เด็กน้อยหลงทาง

เด็กน้อยนายหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า
ตอนนี้ผมหลงทาง ไม่รู้จะเดินไปทางไหนจิงๆ แค่ก้าวเท้าผมยังไม่รู้เลยว่าจะก้าวเท้าซ้ายหรือขวาก่อนดี อาจจะเปนเพราะผมเดินทางไม่เก่ง ไม่ชำนาญเส้น ที่สำคัญผมอ่านแผนที่ไม่ออก ผมมีผู้นำทางที่คอยบอกบริเวณที่หมายให้กับผม แต่ผมก็ยังเดินไปไม่ได้ แน่นอนว่าผมไม่ใช่คนตาบอด การที่จะให้ใครจูงผมไปยังเป้าหมายคงไม่ใช่เรื่องดีนัก ผมเริ่มเข้าใจกับคำว่ามืดแปดด้านมากขึ้นในตอนนี้ ผมคงให้สัณญาไม่ได้ว่าผมจะไปถึงเป้าหมาย แต่อย่างน้อยในตอนนี้ผมก็ได้รู้ว่าระหว่างทางมันยากลำบากแค่ไหนและก็หวังอยู่ลึกๆว่า... ผมคงไปถึงจุดหมาย แม้มันจะถึงโดยไม่สวัสดิภาพก็ตามTT #ให้ตายเถอะ Project
ที่มา facebook ของเจ้าเด็กน้อย

พี่จะบอกเจ้าเด็กน้อยว่า

เจ้าเด็กน้อยหลงทางกลางแสงดาว
แต่ละก้าวจะย่างยังหวั่นไหว
ถึงดาราบอกทางยังหวั่นใจ
หนทางใด คือมรรคา หายากจริง

เจ้าเด็กน้อยเจ้าเคยหวนไปคิด
ถึงชีวิตที่ผ่านพ้นทุกสรรพสิ่ง
เจ้าเคยเตรียม ใจกาย ไว้พักพิง
พร้อมแอบอิง ประสบการณ์ แล้วหรือยัง

เจ้าเตรียมกาย เผชิญโลกมากเพียงใด
เจ้าเตรียมใจ ทุกข์ยาก พร้อมพลาดพลั้ง
เตรียมสมอง เตรียมปัญญา เตรียมพลัง
ลดอคติ ชิงชัง จะเป็นไร

จงรู้จักเริ่มต้นที่จะคิด
ถูกหรือผิด พลาดพลั้ง ยังแก้ได้
หากไม่เริ่ม ไม่ล้ม ไม่แก้ไข
ขวากหนามใหญ่ คงอับจน พ้นปัญญา

ดีแล้วหนาที่รู้ยังอ่อนด้อย
จงอย่าคอย ให้ใคร แก้ปัญหา
จงพากเพียร เรียนรู้ พัฒนา
จะได้มาซึ่งเสบียงไว้เลี้ยงตน

แสงดาว ในที่มืด ส่องสว่าง
ยังนำทาง ให้ผู้คน ไม่สับสน
จงพินิจดาราให้แยบยล
จะรู้หนทางเดินทางต่อไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บันทึกการจัดงานศพ: พิธีฌาปนกิจศพ

ตรงส่วนนี้คงจะเขียนเกี่ยวกับพิธียกศพออกจากบ้าน และเกร็ดต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากที่จัดงานจะไม่นิยมไว้ศพที่วัด จะไว้ศพที่บ้าน และถ้าเป็นไปได้จะไว้ศพในบ้านเสียด้วยซ่ำ เมื่อถึงวันฌาปนกิจศพ หรือเผาศพ ก็จะมีการเซ่นไหว้ครั้งใหญ่ก่อนเคลื่อนย้ายศพไปวัดเพื่อฌาปนกิจ เครื่องเซ่นไว้จะประกอบไปด้วย ข้าว 5 ถ้วย กับข้าว 5 อย่าง หัวหมู ไก่ต้ม ไข่ต้ม หมูสามชั้นต้ม หมี่เหลืองผัด กุ้ง หอย ปู ปลา ผลไม้ 5 อย่าง ขนมขึ้น เมื่อมีการเซ่นไหว้ทุกครั้งจะต้องมี สัปรด น้ำชา 3 จอก เหล้าขาว 5 จอก(หลานๆ บอกว่าเจ็คไม่กินเหล้าขาว แต่มีคนบอกว่าเป็นการไหว้ตามประเพณี ^^ ) ซึ่งแต่ละอย่างมีความหมาย แต่ผมจำไม่ได้ต้องหาอีกครั้งนึง ตัวอย่างเครื่องเซ่นไหว้ เมื่อถึงพิธีเซ่นไหว้ จะมีการเซ่นไหว้โดยแบ่งออกเป็นคณะ แต่เพื่อความสะดวกและรวบรัดจึงมีการไหว้เพียงไม่กี่คณะ ซึ่งก็เหมือนเดิมคือผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่าจะไม่รวมการเซ่นไหว้ครั้งนี้ คณะแรกจะเป็นผู้ไกล้ชิดผู้ตายมากที่สุดเริ่มตั้งแต่ลูกและภรรยา หลังจากนั้นก็จะเป็นน้องๆ แล้วก็หลานๆ และก็มิตรรักและผู้คนที่นับถือผู้ตาย หากเป็นเมื่อสมัยก่อนนั้น ต้องแยกออกเป็นเขย เป็นสะไภ้ ไหว้กันหลายยกหล...

ตัวเอ๋ยตัวผม

กลอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเขียนขึ้นมาในห้องเรียนวิชาสัมนา 1 เพราะอาจารย์อยากให้แนะนำตัวเองเป็นกลอน ไม่รู้จะแต่งว่าไงเลยแต่งออกมาเป็นดอกสร้อย เห็นว่าพอใช้ได้เลยเอามาลงไว้เป็นอนุสร ๏ ตัวเอ๋ยตัวผม นิยมในพระพุทธศาสนา ตั้งจิตตั้งใจตั้งหน้า ใฝ่หาความรู้สู่ตน ตั้งใจศึกษาให้เชี่ยวชาญ ชำนาญในศาสตร์ที่ฝึกฝน ฝึกจิตฝึกสันดานให้เป็นคน เป็นชนในชาติที่ดีเอย ๚ะ๛

ด้วยระลึกถึงคุณย่า บันทึกจากความทรงจำ

บันทึกนี้เขียนขึ้นเพื่อบันทึกความทรงจำของผมที่มีต่อคุณย่าที่ล่วงลับไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนคืน คุณย่าเปรียบเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ร้อยครอบครัวใหญ่ของเราเอาไว้ไม่ให้แตกแยก หลังจากที่เสียคุณปู่ไปเมื่อ 23 ปีก่อน เนื่องจากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต มีชาวจีนอาศัยอยู่มาก แต่มักจะเป็นชาวจีนที่อพยพมาไทยนานแล้ว จากการการสังเกตของผม ชาวจีนแถบนี้โดยมากน่าจะเป็นชาว เปอรานากัน หรือชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแล้วตั้งถิ่นฐานอยู่ในแหลมลายูหรืออินโดนีเซีย แล้วหลังจากนั้นจึงอพยพมาอาศัยต่อที่ประเทศไทย จากการบอกเล่าของคุณแม่ ก๋งเคยเล่าให้ฟังว่าตอนยังเด็กเคยแจวเรือจ้างอยู่ที่ปีนัง คุณย่าเคยเล่าว่าเป็นชาวฮกเกี้ยน อีกทั้วจากรูปวาดคุณย่าทวดที่มีการเกล้ามวยผม สวมเสื้อคอลึก ส่วนทางบ้านมีการใช้คำเรียกจีนผสมไทยถิ่นใต้อยู่มาก ผู้หญิงทุกคนนิยมสวมผ้าปาเต๊ะ เสื้อลูกไม้ (เสื้อฉลุลายดอกไม้) อาหารการกินเป็นแบบชาวไทยถิ่นใต้ทุกประการ (กินน้ำพริก แกงส้มเก่งกันทุกคน ยกเว้นก๋ง :D) อีกทั้งก๋งเกิดที่ดินแดนแถบนี้ไม่ได้เดินทางมาจากเมืองจีน (บางทีเรียก เตี่ยต่อเตี่ย คือ ทวดมาจากจีน ส่วนสถานที่เกิดไม่แน่ใจว่าเป็นปีนังหรือไทย)...