หลังจากส่งบทความทางวิชาการ ไปยัง The 2012 5th International Congress on Image and Signal Processing (CISP 2012) และได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมนำเสนอผลงานในงานประชุมวิชาการที่เมืองฉงชิ่ง จึงมีโอกาสไปเยือนประเทศจีนครั้งแรกในชีวิต ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เมืองเอกอย่างปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นเมืองใหญ่ทีเดียว ผมเริ่มเดินทางออกจากประเทศไทยโดยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งมีเส้นทางบินตรงไปยังเมืองฉงชิ่งจากกรุงเทพ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางใช้เวลาประมาณสามชัวโมง ในเที่ยวบินมีชาวจีนเต็มลำ มีคนไทยบ้างนิดหน่อย พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพูดจีนได้ด้วย :D
เมื่อออกจากสนามบินความรู้สึกแรกคือหนาว เต็มไปด้วยหมอก ตั้งอยู่บนขุนเขา และเริ่มรู้สึกเป็นมนุษย์ต่างดาวขึ้นมาทันทีเพราะไปคุยกับคนเรียกแท็กซี่ แต่เขาพูดจีนใส่ :( โชคดีที่พิมพ์ภาษาจีนไปด้วยว่าอยู่แถวใหน ชื่อโรงแรมอะไร เลยได้ไปถึงโรงแรมสมใจ ภายในแท็กซี่ก็เป็นเหมือนรูปด้านล่าง บางคันก็มีกรงแบบที่เห็น บางคันก็ไม่มี เมื่อถึงโรงแรมปรากฏว่าพนักงานต้อนรับ พูดภาษาอักฤษไม่ได้เลย ตอนแรกคาดหวังว่าจะพูดได้บ้าง แต่แล้วก็ T__T ดีตรงที่ว่าจองโรงแรมผ่านเว็บเลยไร้ปัญหาเรื่องห้องพัก และพิมพ์เอกสารการจองมาเรียบร้อยเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาจีน
ภายในแท็กซี่ |
ห้องพักภายในโรงแรม |
ปลั๊กไฟภายในโรงแรม สามารถใช้ได้ไร้ปัญหา |
เนื่องจากโรงแรมที่จองไว้ไม่ใช้โรงแรมที่จัดประชุม ไปถึงเลยสำรวจหน่อยว่ามันอยู่ตรงในกันแน่ เลยพบว่า Google Map เมืองฉงชิ่งกับ GPS ของ Galaxy Tab คลาดเคลื่อนกันมาก ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะหมอกแต่ที่ใหนได้ มันคลาดเคลื่อนจริงๆ แต่ map ของ Google Map ค่อนข้างละเอียดทีเดียว เลยลองอีก Map นึงนั้นก็คือ OpenStreetMap ที่แคชเอาไว้ ผลคือรายละเอียดค่อนข้างตรง แต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยใน Map T__T เลยเปิดเทียบกันระหว่างสอง Map แทน เดินไปเดินมาเจอร้าน KFC เลยแวะกินสักหน่อย ก็ได้ข้าวราดลูกชิ้นผัดซอส มีไก่ทอดหนึ่งชิ้น กับโค้ก ราคา 20 หยวน หากเทียบกับมื้ออื่นจัดว่าค่อนข้างแพง (แต่ KFC บ้านเราก็แพงอยู่แล้วนี่น่า) รสชาติออกหวานเล็กน้อย ลูกชิ้นเนื้อนุ่ม อร่อยดี ต่างกับอาหารพื้นถิ่นของเมืองนี้อย่างสิ้นเชิง :D
KFC ข้าวกับลูกชิ้นราดข้าว มีโค้กกะไก่ทอดหนึ่งชิ้น 20 หยวน |
โรงแรมที่ใช้จัดงานประชุมตั้งอยู่บริเวณเดียวกับศาลาประชาคมเมืองฉงชิ่ง ตอนแรกหาทางขึ้นไม่เจอเดินอยู่หลายรอบเหมือนกัน เพราะตัวโรงแรมกับศาลาประชาคมมีรูปแบบเหมือนกัน เลยคิดว่าโรงแรมเป็นส่วนหนึ่งของศาลาประชาคม แต่โรงแรมดันอยู่ข้างหลังไม่มีป้ายจากถนนใหญ่ แต่มีป้ายใหญ่โตตรงทางขึ้นหลงเดินกันรอบทีเดียว ตอนกลางวันจะมีนักท่องเที่ยวจากเมืองต่างๆ มาเที่ยวที่ศาลาประชาคมกันเยอะมากส่วนใหญ่เป็นชาวจีนด้วยกันเอง ถัดจากศาลาประชาคมลงมาเป็น จตุรัสประชาชน มีคนมาทำกิจกรรมกันเยอะมากโดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ มีทั้งเต้นรำ เต้นประกอบเพลงอะไรทำนองนี้ครับ สนุกสนานทีเดียว
ศาลาประชาคม |
โรงแรมที่จัดประชุม Chongqing DLT Hotel |
ประตูก่อนถึงจตุรัสประชาชน |
แม่ค้าขายส้มมีให้เห็นได้ทั่วไปรอบๆ บริเวณศาลาประชาคม กิโลเป็นแบบ ตราชั่งที่ใช้เหล็กถ่วงเอาเหน็บอยู่ที่กระบุงด้านขวา |
บรรยากาศยามค่ำคืน |
ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ชาวบ้านเขาออกมาเต้นรำกันสนุกสนานทีเดียว |
ตรงข้ามกับศาลาประชาคมเมืองฉงชิ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์ China Three Gorges Museum เราสามารถเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ได้ฟรี ภายในมีห้องจัดแสดงหลายห้องหลายชั้นด้วยกัน เป็นประวัติศาสตร์จีน การตั้งเมืองฉงชิ่ง อารยธรรมจีนต่างๆ ที่แน่ๆ เมืองนี้เกี่ยวกับพริก ถึงขนาดจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องทองเหลือง เครื่องเคลือบ ภาพพิมพ์ เงิน บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเหตุการณ์ต่างๆ ในเมืองฉงชิ่งจัดแสดง
พิพิธภัณฑ์ เข้าฟรี :D |
แรงงานที่ฉุดลากเรือ |
พริกและเครื่องเทศ |
แม่พิมพ์ |
เตาเผาเครื่องปั้นเครื่องเคลือบ |
ในวันแรกพอมีเวลาเลยเดินเล่นริมแม่น้ำเจียหลิงบรรยากาศร่มรื่นดี ที่นี้มีทางรถไฟฟ้าเลาะริมแม่น้ำ แต่ทางขึ้นไม่ได้อยู่ริมแม่น้ำเลย แต้เดินขึ้นมาอีกหน่อยจึงจะเจอทางขึ้น มีรถเมล์อยู่หลายสายให้บริการ แต่ก็ขึ้นไม่ถูกเลยเดินชมบรรยากาศริมแม่น้ำ และบ้านเมืองเขา เดินไปสักพักก็เจอ Hong Ya Dong เป็นห้างบวกโรงแรมบวกหมู่บ้านโบราณจำลอง มีของฝากของที่ระลึกมากมายตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจียหลิงนั้นเอง บรรยากาศก็ออกแนวหมู่บ้านจีนโบราณ มีขนม อาหาร ของฝากขายตามร้านต่างๆ ที่สำคัญมีร้านขนมเกลียวเยอะมาก
ทางเดินมีต้นไม้เป็นแนวตลอดทางเดิน |
มีทางรถไฟฟ้าและทางเดินเลาะริมน้ำ |
Hong Ya Dong เป็นห้างบวกกับหมู่บ้านจีนจำลองตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจียหลิง |
บรรยาการ Hong Ya Dong ยามค่ำคืน |
บรรยากาศริมแม่น้ำเจียหลิง ถ่ายจาก Hong Ya Dong |
บรรยากาศริมแม่น้ำเจียหลิงยามคำคืน |
อาหารที่เมืองนี้ก็คงเหมือนอาหารจีนทั่วไปแต่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนอาหารจีนอื่นตรงที่ บางอย่างมีความเผ็ดร้อนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอาหารหลายอย่างจะมีการใส่เครื่องเทศที่ทำให้ชา และพริกที่ทำให้ร้อน อาหารมื้อต่อมาจึงลองสั่งอาหารท้องถิ่นอย่างหมูสามชั้นกับผักดองแล้วก็อะไรสักอย่าง ไม่รู้จักเหมือนกันเนื่องจากชี้เอาจากรูป แต่น่าจะเป็นหัวใจไก่ผัดเผ็ดหม้อไฟ มีโตเหมี่ยว ต้นหอม แตงกวา แต่ที่แน่ๆคือใส่พริกที่ทั้งร้อนทั้งชามาด้วย ผมเป็นคนใต้จึงไม่รู้สึกว่าเผ็ดมากไปหรือเปล่าเพราะกินจนชินแล้วแต่ได้เครื่องเทศที่ทำให้ชานี่ซิมันแปลกมากเลย ถ้าสกัดเอามาทำยาชาได้คงดี :D อาหารที่โรงแรมก็จะเป็นอาหารที่พบเจอได้ตามโรงแรมทั่วไปแต่จะมีอาหารจีนอย่างหมี่ผัด ผัดผัก ซาลาเปา ข้าวต้ม และเครื่องข้าวต้มให้ได้รับประทานด้วย หากเป็นตอนเที่ยงก็จะมีบะหมี่น้ำและเกี่ยวน้ำให้กิน อร่อยดี :D มื้อสุดท้ายก่อนกลับเข้าร้านที่ไม่มีรูป และหิวมากเลยเปิดคู่มือภาษาจีนบอกเอาว่าเอาหมูและข้าวเขาเลยจัดข้าวผัดหมูมาให้ รสชาติก็อร่อยดี และถูกกว่า KFC เยอะมาก ประมาณแปดหยวนกว่าๆ โรงแรมที่พักอยู่ใกล้ตลาดจึงมีโอกาศได้ชิมเป็ดย่างขายกันตามตู้ทั่วไป ครึ่งตัว 15 หยวน (ประมาณ 75 บาท) คิดไปคิดมาถูกเหมือนกัน แต่รสชาติออกเค็มและมัน กินกับข้าวคงอร่อย
หมูสามชั้นกับผักกาดดอง |
หัวใจไก่ โตเหมี่ยว ต้นหอม แตกกว่า และพริกๆ รสชาติออกทั้งชาและร้อน แต่ก็อร่อยดี |
สั่งข้าวผัดหมู จานนี้ไม่เผ็ดไม่ร้อนเซิร์ฟพร้อมน้ำแกง |
อาหารโรงแรมตอนเช้าจะเป็นเครื่องข้าวต้ม ซาลาเปา แล้วก็มาตรฐานอาหารโรงแรมทั่วไป แต่จะมีผัดผักอยู่หลายอย่าง แต่ก็มันๆ ทั้งนั้น :( |
เป็ดเมืองจีน แห้งและค่อนข้างเค็ม |
มาถึงงานประชุมที่จัดขึ้นก็ดีหน่อยตรงที่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้มาช่วยตอบคำถามต่างๆ ของชาวต่างประเทศ แต่บางอย่างก็ไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่เช่น คูปองอาหาร เป็นภาษาจีนทั้งหมดก็ยากที่จะอ่านอยู่เหมือนกัน ส่วนของที่ระลึกสวยได้ทำออกมาป็นชุดเครื่องลายครามทีเดียว สำหรับการนำเสนอบทความเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นคนจีนภาษาอังกฤษของเขาสำเนียงฟังยากอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ฟังยากมากเลยทีเดียว ถามคำถามไปหนึ่งคำถามสำหรับคนจีน เกี่ยงกับสเตอริโอวิชัน เนื่องจากเป็นเรื่องที่เคยทำตอน ป.โท เขาน่าจะไม่เข้าใจคำถามหรือไม่ก็ฟังภาษาอังกฤษเราไม่รู้เรื่อง อีกหนึ่งคำถามสำหรับชาวญี่ปุ่นซึ่งผลก็ออกมาเหมือนกันตอนแรกคิดว่าภาษาอังกฤษของเราแย่มาก แต่พอดีอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นและเป็นประธานเซสชัน พยักหน้าตอบรับแสดงว่าเขาเข้าใจคำถามเราก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อย ส่วนคำถามสุดท้ายเป็นของชาวจีนเกี่ยวกับ RTMP ถามว่าจะมีผลกระทบหรือเปล่าเมื่อใช้ IPv6 ดูเหมือนเขาจะงงๆๆ :P ว่า IPv6 คืออะไร T__T แต่ก็ตอบออกมาว่าน่าจะไม่มีผลกระทบ \o/ อาหารว่างของที่นี่ส่วนใหญ่เป็ผลไม้เช่นองุ่น และมีมะเขือเทศลูกเล็กขึ้นโต๊ะด้วย เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
คูปองอาหารเย็น |
คูปองอาหารเที่ยง |
ของที่ระลึกจัดเต็มจริงๆ |
ดินสอที่ตั้งให้ที่ประชุมแปลกดี |
บรรยากาศห้องประชุม |
วันสุดท้ายก่อนกลับได้มีโอกาสไปเที่ยว ฉือชี่โข่ว เป็นหมู่บ้านเมืองโบราณที่เขาอนุรักษ์เอาไว้ ได้บรรยากาศเมืองแบบโบราณ มีของกินของฝากให้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย ของแปลกก็คือผลไม้เสียบไม้ชุบน้ำตาล บางเจ้าเอามาเสียบกับเสาฟางขายด้วย แบบในหนังจีน \o/ นอกจากนี้มีโอกาสได้เข้าวัดจีนแห่งหนึ่งใน ฉือชี่โข่ว ไม่รู้ชื่อวัดอะไรค่าเข้า 5 หยวน ได้ธูปมาสามดอกสำหรับเซ่นไหว้พระพุทธเจ้าและเทพเจ้าต่างๆ มีพระพุทธรูปหินอ่อนแต่ถ่ายรูปมาไม่ได้ เขาไม่ให้ถ่าย
ประตูทางเข้า |
ผลไม้เคลือบน้ำตาล |
น่าจะเป็นรากบัว |
น้ำตาลทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ |
บรรยากาศร้านค้า |
ท่าเรือปลายทาง |
มันเฝ้าทางเข้าวัด |
พระศรีอริยเมตตรัยโพธิสัตว์ |
บริเวณวัด |
มีต้นไม้ผูกผ้าแดงเต็มไปหมด |
ขลุ่ยผิวของจีน |
อีกแบบนึ่ง |
และถ้ายสุดเป็นปลายแหลมของเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจียหลิงและแม่น้ำแยงซีมาบรรจบกัน บริเวณนี้มีท่าเรือล่องเรือสำราญและล่องเรือชมเมืองอยู่ด้วย เดินไปอีกไกลหน่อยก็เป็นอนุสาวรีย์ปลดแอกญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นหอนาฬิกา ปัจจุบันบริเวณรอบๆ เป็นศูนย์การค้าทันสมัยต่างๆ หนุ่มสาวเดินกันขวักไขว่ทีเดียว
ฝั่งแม่น้ำเจียหลิง |
แม่น้ำแยงซี |
จุดที่สองแม่น้ำมาบรรจบกัน |
ท่าเรือ |
ด้านบนเป็นล่านกว้างสำหรับชมแม่น้ำ แต่บางคนเขาเล่นว่าวกัน |
หอนาฬิกา เป็นอนุสาวรีย์ปลดแอกจากญี่ปุ่น |
บรรยากาศร้านค้าบริเวณนั้น |
คนสูงอายุเมืองนี้ชอบออกมาเดินเล่นนอกบ้านเลี้ยงหลานเหมือนเมืองไทย :D แต่เขาชอบขากเสลดแล้วบ้วนออกมา จะนั่งตามขั้นบันไดก็ระวังหน่อย :D อีกอย่างการขับรถเมืองนี้มีการบีบแตรกันทั้งวันทั้งคืน ตื่นมาตอนตีสามยังได้ยินเสียงแตรเลย :P ทั้งบีบแตรไล่รถที่จอดขวางทาง บีบแตรไล่คนข้ามถนนที่ไม่ใช้ทางม้าลาย (แต่ทางม้าลายมีน้อยมาก คนชอบเดินบนถนน) อะไรนิดอะไรหน่อยก็บีบแตร เสียงดังวุ่นวายทีเดียว คนที่นี่ชอบสูบบุหรี่มาก เดินไปใหนก็เห็นคนสูบบุหรี่และมีบุหรี่ขายกันเต็มทุกตรอกซอกซอย อีกอย่างหนึ่งคือไพ่นกกระจอก ตั้งโต๊ะเล่นกันพบเห็นได้ง่าย (สังเกตว่ามีคนมุงเยอะ) โดยเฉพาะบริเวณที่พักหรือตลาด ตอนบ่ายๆ เย็นๆ
จบการท่องเที่ยวเมืองฉงชิ่งและประชุมวิชาการ 5 วัน 4 คืน ไม่ค่อยได้ไปใหนมากก็เที่ยวบริเวณเมืองไม่ได้ออกไปข้างนอกเมืองเลย การคมนาคมสะดวกดี มีทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า แต่ต้องรู้ภาษาจีนนะ จะเดินทางสะดวกมาก :D หากมีคนรู้ภาษาจีนไปด้วยน่าจะเที่ยวได้สนุกกว่านี้มาก ผู้คนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แม้ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ก็ตาม ส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนแถมสำเนียงจีนยังมีเป็นของตัวเองอีกต่างหาก อาหารอร่อยดีแต่ออกเค็มกับชามากไปหน่อย โดยรวมแล้วถือว่าสนุกมากทีเดียว \o/
จบการท่องเที่ยวเมืองฉงชิ่งและประชุมวิชาการ 5 วัน 4 คืน ไม่ค่อยได้ไปใหนมากก็เที่ยวบริเวณเมืองไม่ได้ออกไปข้างนอกเมืองเลย การคมนาคมสะดวกดี มีทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า แต่ต้องรู้ภาษาจีนนะ จะเดินทางสะดวกมาก :D หากมีคนรู้ภาษาจีนไปด้วยน่าจะเที่ยวได้สนุกกว่านี้มาก ผู้คนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แม้ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ก็ตาม ส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนแถมสำเนียงจีนยังมีเป็นของตัวเองอีกต่างหาก อาหารอร่อยดีแต่ออกเค็มกับชามากไปหน่อย โดยรวมแล้วถือว่าสนุกมากทีเดียว \o/
ดูรูปเพิ่มเติมได้ที่ Chongqing 15-19 October 2012 บน Google Plus นะครับ
สุดท้ายนี้ขอบคุณ
[SR] Fabulous Chongqing : รวมมิตรข้อมูลเตรียมตัว บิน-กิน-เที่ยว ง่ายๆ กับแอร์เอเชียเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพ-ฉงชิ่ง ของคุณหมอยุ่ง ที่ให้รายละเอียดการเดินทาง และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
แนะนำสถานที่เที่ยวในฉงชิ่ง ของคนไทยที่ไปเรียนอยู่ฉงชิ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น