ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

2553 น้ำท่วมหาดใหญ่: น้ำลด

ข้อเขียนของผมใกล้ถึงจุดหมายแล้วเหลือเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้มาติดตามกันต่อว่าน้ำลดแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชาวหาดใหญ่บ้าง

น้ำลด
ตั้งแต่มีเหตุการณ์น้ำท่วมมาผมไม่มีโอกาสได้เข้าไปดูในเมืองหาดใหญ่เลยว่ามีสถานการณ์เป็นเช่นไรบ้างเนื่องจากวุ่นอยู่กับการขนของและจัดเตรียมอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการนั้นเอง หลังจากปิดศูนย์ที่ธรรมสถาน ม.อ. วันที่ 6 พฤศจิกายน น้องข้าวได้ชวนให้ไปแจงถุงดำของทางสถานีวิทยุ FM88 (ชีวิตผมวุ่นวายอยู่กับที่นี่จริงๆ) แต่ต้องไปกับรถจักรยายนต์ตัวเองครับ เนื่องจากได้ข่าวว่าสภาพในเมืองนั้นยากที่จะเข้าถึงตรอกซอกซอยได้หากโดยสารด้วยรถขนาดใหญ่ ผมมีโอกาสได้ไปแจกที่แถบทุ่งเสาและจันทร์วิโรจน์ สภาพพูดได้ว่าดูแทบไม่ได้ เนื่องจากกองขยะที่ชาวบ้านได้เอามากองไว้ที่ริมถนนรอให้เทศบาลนครหาดใหญ่มาเก็บกวาด และสภาพถนนที่เต็มไปด้วยโคลน หลายๆ ท่านอาจได้ชมไปบ้างแล้วทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ที่หลายๆ ช่องได้นำเสนอไปแล้วนั้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่น้ำลดเกือบทั้งหมดของพื้นที่หาดใหญ่จึงส่งผลให้ชาวบ้านออกมาทำความสะอาดบ้านเรือนกันมาก ขยะเลยมากตามไปด้วย โชคดีที่วันนี้ยังไม่มีแมลงวัน การแจกจ่ายถุงดำทำให้ผมได้ทราบว่าข้าวปลาอาหารที่ทางศูนย์เตรียมไว้แจกจ่ายนั้นยังเข้าไม่ถึงในหลายๆ พื้นที่ ผมไม่โทษว่าเป็นความผิดของใคร แต่ก็รู้สึกเห็นใจชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวโดยเฉพาะจันทร์วิโรจน์อย่างมาก
ต้องขอขอบคุณพี่ๆ เทศบาล ทหาร ทั้งหลายที่ช่วยกันทำความสะอาดถนนหนทางต่างๆ ให้หาดใหญ่เข้าสู่ภาวะปรกติ ถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยในหลายๆ พื้นที่ก็ตามเนื่องจากไฟฟ้าและประปายังไม่สามารถแจกจ่ายได้ครอบคลุมนั้นเอง

น้ำท่วมว่าหนักแล้วน้ำลดยิ่งหนักกว่า
เหตุที่เขียนว่าน้ำท่วมว่าหนักแล้วน้ำลดยิ่งหนักกว่าเนื่องจากน้ำท่วมทำอะไรมากไม่ได้แต่น้ำลดต้องทำความสะอาดบ้านเรือนกันขนานใหญ่ อีกทั้งภาพความเสียหายก็เด่นชัดขึ้นมาอย่างมาก ความท้อแท้และน้อยใจต่อโชคชะตาก็สุ่มอยู่มิวางวาย บางบ้านถึงกับขนพระภูมิ-เจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านออกมาทิ้งอย่างไม่ใยดี ไม่ใช้เพราะหมดศัทธาหากแต่เสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมต่างหาก ที่นอนหมอนมุ่ง ทรัพย์สมบัติที่สะสมมาตั้งแต่ตอนที่น้ำยังไม่ท่วมกลับมลายหายสิ้น เห็นแล้วหดหู่มากครับ

ฟื้นฟู
จากการที่ได้สัมผัสมาในเวลานี้แผนฟื้นฟูภัยพิบัติของหาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรมนั้นยังไม่มี หลายหน่วยงานรอคอยความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลเพียงเท่านั้น เท่าที่ทราบมาหลังจากน้ำลดแล้วชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านก็นำขยะมากองไว้บนถนนซึ่งสกปรกมาก รถเก็บขยะก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ทัน เนื่องจากงานล้นมือแทนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดเตรียมถุงใส่ขยะไว้แจกจ่ายแต่กลับเงียบหาย ผมได้ยินแต่รถกระจายเสียงแนะนำข้อควรปฏิบัติหลังน้ำทั่วเพียงเท่านั้นกระจายในตัวเมือง แต่ชาวหาดใหญ่ยังต้องนอนจมกองเชื้อโรคอีกหลายวันถึงแม้ว่าน้ำจะลดแล้วก็ตาม แอบเห็นหน่วยแพทย์บ้างตามสถานที่ต่างๆ และได้ยินข่าวว่านักศึกษาด้านสุขภาพได้ลงแจกจ่ายเอกสารและแนะนำข้อปฏิบัติแก่ชาวบ้าน ต้องขอขอบคุณมากครับ

น้ำลดอาสาสมัครก็เหือดหาย
ผมตั้งใจเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเนื่องจากเป็นดังที่กล่าวไว้ที่หัวข้อจริงๆ อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ได้จากการให้ความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ และที่ลืมไม่ได้คือทางบ้านของอาสาสมัครเองก็น้ำท่วมเหมือนกัน (ไม่เชื่อถาม @ifine กับ @igoyz ดู :D ) ที่จริงแล้วหาดใหญ่เวลานี้ต้องการอาสาสมัครมาฟื้นฟูหาดใหญ่มากกว่าตอนน้ำท่วมเสียอีก เนื่องจากความเสียหายที่เกิดกับถนนหนทาง ซอกเล็กซอกน้อยที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดก็เต็มไปด้วยความยากลำบาก ในบางพื้นที่เครื่องมือหนักก็ยากที่จะเข้าไปทำความสะอาดได้ อีกทั้งในเวลานี้ยังต้องการคนมาดูแลหัวใจของชาวหาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวเอ๋ยตัวผม

กลอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเขียนขึ้นมาในห้องเรียนวิชาสัมนา 1 เพราะอาจารย์อยากให้แนะนำตัวเองเป็นกลอน ไม่รู้จะแต่งว่าไงเลยแต่งออกมาเป็นดอกสร้อย เห็นว่าพอใช้ได้เลยเอามาลงไว้เป็นอนุสร ๏ ตัวเอ๋ยตัวผม นิยมในพระพุทธศาสนา ตั้งจิตตั้งใจตั้งหน้า ใฝ่หาความรู้สู่ตน ตั้งใจศึกษาให้เชี่ยวชาญ ชำนาญในศาสตร์ที่ฝึกฝน ฝึกจิตฝึกสันดานให้เป็นคน เป็นชนในชาติที่ดีเอย ๚ะ๛

บันทึกการจัดงานศพ: พิธีฌาปนกิจศพ

ตรงส่วนนี้คงจะเขียนเกี่ยวกับพิธียกศพออกจากบ้าน และเกร็ดต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากที่จัดงานจะไม่นิยมไว้ศพที่วัด จะไว้ศพที่บ้าน และถ้าเป็นไปได้จะไว้ศพในบ้านเสียด้วยซ่ำ เมื่อถึงวันฌาปนกิจศพ หรือเผาศพ ก็จะมีการเซ่นไหว้ครั้งใหญ่ก่อนเคลื่อนย้ายศพไปวัดเพื่อฌาปนกิจ เครื่องเซ่นไว้จะประกอบไปด้วย ข้าว 5 ถ้วย กับข้าว 5 อย่าง หัวหมู ไก่ต้ม ไข่ต้ม หมูสามชั้นต้ม หมี่เหลืองผัด กุ้ง หอย ปู ปลา ผลไม้ 5 อย่าง ขนมขึ้น เมื่อมีการเซ่นไหว้ทุกครั้งจะต้องมี สัปรด น้ำชา 3 จอก เหล้าขาว 5 จอก(หลานๆ บอกว่าเจ็คไม่กินเหล้าขาว แต่มีคนบอกว่าเป็นการไหว้ตามประเพณี ^^ ) ซึ่งแต่ละอย่างมีความหมาย แต่ผมจำไม่ได้ต้องหาอีกครั้งนึง ตัวอย่างเครื่องเซ่นไหว้ เมื่อถึงพิธีเซ่นไหว้ จะมีการเซ่นไหว้โดยแบ่งออกเป็นคณะ แต่เพื่อความสะดวกและรวบรัดจึงมีการไหว้เพียงไม่กี่คณะ ซึ่งก็เหมือนเดิมคือผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่าจะไม่รวมการเซ่นไหว้ครั้งนี้ คณะแรกจะเป็นผู้ไกล้ชิดผู้ตายมากที่สุดเริ่มตั้งแต่ลูกและภรรยา หลังจากนั้นก็จะเป็นน้องๆ แล้วก็หลานๆ และก็มิตรรักและผู้คนที่นับถือผู้ตาย หากเป็นเมื่อสมัยก่อนนั้น ต้องแยกออกเป็นเขย เป็นสะไภ้ ไหว้กันหลายยกหล

ด้วยระลึกถึงคุณย่า บันทึกจากความทรงจำ

บันทึกนี้เขียนขึ้นเพื่อบันทึกความทรงจำของผมที่มีต่อคุณย่าที่ล่วงลับไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนคืน คุณย่าเปรียบเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ร้อยครอบครัวใหญ่ของเราเอาไว้ไม่ให้แตกแยก หลังจากที่เสียคุณปู่ไปเมื่อ 23 ปีก่อน เนื่องจากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต มีชาวจีนอาศัยอยู่มาก แต่มักจะเป็นชาวจีนที่อพยพมาไทยนานแล้ว จากการการสังเกตของผม ชาวจีนแถบนี้โดยมากน่าจะเป็นชาว เปอรานากัน หรือชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแล้วตั้งถิ่นฐานอยู่ในแหลมลายูหรืออินโดนีเซีย แล้วหลังจากนั้นจึงอพยพมาอาศัยต่อที่ประเทศไทย จากการบอกเล่าของคุณแม่ ก๋งเคยเล่าให้ฟังว่าตอนยังเด็กเคยแจวเรือจ้างอยู่ที่ปีนัง คุณย่าเคยเล่าว่าเป็นชาวฮกเกี้ยน อีกทั้วจากรูปวาดคุณย่าทวดที่มีการเกล้ามวยผม สวมเสื้อคอลึก ส่วนทางบ้านมีการใช้คำเรียกจีนผสมไทยถิ่นใต้อยู่มาก ผู้หญิงทุกคนนิยมสวมผ้าปาเต๊ะ เสื้อลูกไม้ (เสื้อฉลุลายดอกไม้) อาหารการกินเป็นแบบชาวไทยถิ่นใต้ทุกประการ (กินน้ำพริก แกงส้มเก่งกันทุกคน ยกเว้นก๋ง :D) อีกทั้งก๋งเกิดที่ดินแดนแถบนี้ไม่ได้เดินทางมาจากเมืองจีน (บางทีเรียก เตี่ยต่อเตี่ย คือ ทวดมาจากจีน ส่วนสถานที่เกิดไม่แน่ใจว่าเป็นปีนังหรือไทย)