มัวแต่ตีกันแล้วเมื่อไหร่ประเทศไทยจะเจริญ
นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาจากวิทยาลัยทางช่างทั้งหลายมักมีเหตุตีกันเสมอ เพราะอะไรทำไมไม่เคยมีใครวิเคราะห์หรือนำเสนอประเด็นปัะสถาบันญหาเหล่านี้ ผมเองตั้งแต่โตมาได้ยินข่าวนี้มาก ถึงมากที่สุดในแต่ละช่วงวัยของผม ปัญหานี้แก้ปัญหาไม่ได้เสียทีทำไม เพราะอะไร
เพราะคำว่าสถาบันนั้นเอง ทำไมสถาบันถึงมีความหมายมากสำหรับนักศึกษากลุ่มนี้ เพราะอะไร หลายคนหาทางแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอันได้แก่มาตรการป้องกันต่างๆ กฎที่ภายนอกบังคับ แต่ทำไมไม่แก้ที่ภายในของแต่ละสถาบัน? ปัญหาภายในในที่นี้ผมมองไปที่การปลูกฝั่งความรักในสถาบัน แน่นอนที่สถาบันใคร ใครก็รัก ผมเรียนอยู่ที่ ม.อ. ผมก็รัก ม.อ. แต่ทำไมผมไม่คิดที่จะไปตีกับใคร เนื่องจากระบบมหาวทยาลัยส่วนใหญ่ปลูกฝังการเสียสละ และที่สำคัญ ประเภณีการรบน้องของแต่ละมหาวิทยาลัยมุ่งหวังไปที่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มากกว่าการยึดมั่นในศักดิ์ศรี ของสถาบัน เมื่อมามองดูที่สถาบันที่มีเรื่องมีราวกันเหล่านั้น ผมทายว่าร้อยละ 90 น่าจะปลูกฝังเรื่องศักดิ์ศรี ความแค้น เรื่องเล่าความภาคภูมิใจของรุ่นพี่ที่มีชัยต่อสถาบันคู่อริ ซึ่งช่วงเวลารับน้อง เป็นเวลาที่ดีสำหรับการปลูกฝังเรื่องเหล่านี้เสียด้วย หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกบผมแต่ลองมองที่ผมชี้ดีๆ เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเบ้าหลอมดีๆ สำหรับนักศึกษาใหม่ทั้งสิ้น เนื่องจากรุ่นพี่มักเป็นที่ยังเกรงสำหรับน้องใหม่เสมอ แต่ผมไม่สนับสนุนให้เลิกประเภณีรับร้องแต่ผมเห็นว่าควรใช้ประเภณีนี้ให้เป็นประโยชน์ ปรับรูปแบบให้เหมาะสม เข็มงวดกับการรับน้องที่ไม่เหมาะสม จรรโลงกฏเกณฑ์ทางสังคมที่มีประโยชน์ให้แก่นักศึกษาใหม่ แทนที่จะปล่อยให้รุ่นพี่ปลูกฝังความแค้น แล้วฝังไปกับรุ่นน้องรุ่นแล้วรุ่นเหล่า ไม่แน่ว่าเรื่องเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ หวังว่าคงไม่มีข่าวช่างกลปทุมวันกับนักศึกษาอุเทนถวายอีกนะครับ
นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาจากวิทยาลัยทางช่างทั้งหลายมักมีเหตุตีกันเสมอ เพราะอะไรทำไมไม่เคยมีใครวิเคราะห์หรือนำเสนอประเด็นปัะสถาบันญหาเหล่านี้ ผมเองตั้งแต่โตมาได้ยินข่าวนี้มาก ถึงมากที่สุดในแต่ละช่วงวัยของผม ปัญหานี้แก้ปัญหาไม่ได้เสียทีทำไม เพราะอะไร
เพราะคำว่าสถาบันนั้นเอง ทำไมสถาบันถึงมีความหมายมากสำหรับนักศึกษากลุ่มนี้ เพราะอะไร หลายคนหาทางแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอันได้แก่มาตรการป้องกันต่างๆ กฎที่ภายนอกบังคับ แต่ทำไมไม่แก้ที่ภายในของแต่ละสถาบัน? ปัญหาภายในในที่นี้ผมมองไปที่การปลูกฝั่งความรักในสถาบัน แน่นอนที่สถาบันใคร ใครก็รัก ผมเรียนอยู่ที่ ม.อ. ผมก็รัก ม.อ. แต่ทำไมผมไม่คิดที่จะไปตีกับใคร เนื่องจากระบบมหาวทยาลัยส่วนใหญ่ปลูกฝังการเสียสละ และที่สำคัญ ประเภณีการรบน้องของแต่ละมหาวิทยาลัยมุ่งหวังไปที่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มากกว่าการยึดมั่นในศักดิ์ศรี ของสถาบัน เมื่อมามองดูที่สถาบันที่มีเรื่องมีราวกันเหล่านั้น ผมทายว่าร้อยละ 90 น่าจะปลูกฝังเรื่องศักดิ์ศรี ความแค้น เรื่องเล่าความภาคภูมิใจของรุ่นพี่ที่มีชัยต่อสถาบันคู่อริ ซึ่งช่วงเวลารับน้อง เป็นเวลาที่ดีสำหรับการปลูกฝังเรื่องเหล่านี้เสียด้วย หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกบผมแต่ลองมองที่ผมชี้ดีๆ เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเบ้าหลอมดีๆ สำหรับนักศึกษาใหม่ทั้งสิ้น เนื่องจากรุ่นพี่มักเป็นที่ยังเกรงสำหรับน้องใหม่เสมอ แต่ผมไม่สนับสนุนให้เลิกประเภณีรับร้องแต่ผมเห็นว่าควรใช้ประเภณีนี้ให้เป็นประโยชน์ ปรับรูปแบบให้เหมาะสม เข็มงวดกับการรับน้องที่ไม่เหมาะสม จรรโลงกฏเกณฑ์ทางสังคมที่มีประโยชน์ให้แก่นักศึกษาใหม่ แทนที่จะปล่อยให้รุ่นพี่ปลูกฝังความแค้น แล้วฝังไปกับรุ่นน้องรุ่นแล้วรุ่นเหล่า ไม่แน่ว่าเรื่องเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ หวังว่าคงไม่มีข่าวช่างกลปทุมวันกับนักศึกษาอุเทนถวายอีกนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น