ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ใบสั่งใบแรกในชีวิต

วันนี้ผมออกไปซื้อของให้คุณพ่อในเวลาใกล้เที่ยงและแวะซื้อของฝากที่ตลาดเพราะจะกลับบ้าน ในเวลาประมาณ 11.00 น. ผมขับรถจักรยานยนต์ออกมาทางถนนธรรมนูญวิถีจะมีไฟแดงอยู่ที่บริเวณวัดโคกนาวตัดถนนกาญจนวณิชย์ผมจึงเลี้ยวซ้ายไปทางโลตัสกะจะเข้ามหาวิทยาลัยทางประตูหน้า บริเวณหน้าวัดโคกนาวมีตำรวจสองนายโบกมือให้รถผมหยุดผมจึงหยุด เจ้าพนักงานบอกว่าไฟแดงนี้เลี้ยวซ้ายต้องรอสัญญาณไฟ แล้วก็ขอใบขับขี่ผมไปแล้วบอกให้ไปเสียค่าปรับที่ สภ. คอหงส์ ผมจึงถามว่าห้ามตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่ตอบผมนะ บอกแต่ว่าต้องรอสัญญาณไฟ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าต้องรอสัญญาณไฟเวลาเลี้ยวซ้ายที่แยกนี้ด้วย ตั้งแต่มีจักรยานยนต์แล้วขับที่หาดใหญ่ก็ปาเข้าไปจะ 7 ปีแล้วแต่ก็ว่าเถอะมันอาจจะเป็นความผิดผมที่ไม่ได้ดูป้ายเตือน แต่การตั้งด่านตรวจของเจ้าพนักงานสองคนนี้ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน เนื่องจากไม่มีกรวย ไม่มีป้ายตรวจ และไม่มีนายตำรวจสัญญาบัตร แต่อย่างว่าแหละอาจจะบอกว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าก็ได้ ก็เขาเป็นเจ้าพนักงานนี้นะ ตั้งแต่ สภ. คอหงส์ เปิดมา ก็วันนี้แหละที่ผมรู้ว่า สภ. นี้มีอยู่จริง
สำหรับตัวใบสั่งนั้นเขาเขียนว่าผมฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง ตกลงว่าผมฝ่าไฟแดงหรือนี้ โอ้ว!!! ผมเลือกที่จะไม่ไปเสียค่าปรับในวันนี้แต่จะเสียใน 7 วัน เลยได้ใบสั่งมาเชยชมเล่น !!_ _


แผนที่จุดเกิดเหตุ บันทึกไว้เผื่อชาวหาดใหญ่ไม่รู้ว่าเลี้ยวซ้ายต้องรอสัญญาณไฟนะเธอ


View ใบสั่ง in a larger map
----------------------------------------------------
ในที่สุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม ผมก็ไปจ่ายค่าปรับมา เป็นเงิน 200 บาท (ลุงดาบแกบอกว่าข้อหาเดียวสองร้อยพอ) ตอนเขียนเปรียบเทียบปรับเขาถามชื่อพ่อชื่อแม่ด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ดังเอกสาร (ใครอ่านออกบ้างว่าผมโดนข้อหาอะไร)

นี่คือข้อสังเกตของผมทำไมคนเขียนถึงเขียนได้ลายมือหมอมาก ส่วนการจับอาจไม่ใช่เพราะความผิดซึ่งหน้าที่ผมได้กระทำเพียงอย่างเดียว เพราะว่าวันที่ตรวจขอดูทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสมุดคู่รถ หรือป้ายวงกลม มันเป็นการตั้งด่านกลายๆ แต่เลือกเฉพาะคนมีความผิด อีกประเด็นคือบริเวณวัดโคกนาวเป็นพื้นที่สอบสวนของ สภ. หาดใหญ่ไม่ใช่เหรอ(หรือว่าผมเข้าฃาใจผิด) ทำไม สภ. คอหงส์ถึงไปตรวจตรงนั้นได้นะ !!_ _ ส่วนเอกสารเทียบปรับที่ผมถ่ายไว้ตอนต้นไม่ได้ระบุค่าปรับให้ชัดเจน มาเขียนเอาตอนไปจ่ายค่าปรับนี้แหละ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการเปรียบเทียบปรับเป็นอย่างไรผมไม่ทราบ แต่เขาเขียนในใบสั่งว่าสามารถจ่ายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ผ่านทางธณานัติ ซึ่งหากผมเลือกวิธีนี้ก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี เป็นการทำงานที่ถูกต้องหรือเปล่านะ

สรุปว่าข้อหานี้ผมผิดจริง เพราะได้รับคำยืนยันแล้วว่าเลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟ :(

สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า สภ. คอหงส์อยู่ใหน นี่คือแผนที่ครับ



View ใบสั่ง in a larger map

ความคิดเห็น

  1. ผมก็เคยโดนตรงนั้นเหมือนกันพี่ แต่พอดีว่ามีตุ๊ก ๆ คันนึงโดนจับเหมือนกัน แล้วเค้าโวยวายใส่ตำรวจใหญ่เลย ส่วนผมก็ยืนดูนิ่ง ๆ พอตำรวจหันมาเห็นผมยืนนิ่ง ๆ เค้าก็ตื้นตันใจ เรียกเก็บใบสั่งที่เพิ่งออก แล้วก็คืนกุญแจรถเฉยเลยอ่ะ ฮ่า ๆ

    ตอบลบ
  2. ถ้าเสียค่าปรับตรงนั้นเลย ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นค่ากระทิงแดงหรือเปล่านะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ได้เสียอะดิไป สภ. ยังไม่ถูกเลย

    ตอบลบ
  4. โดนไปกี่บาทอะคะ คราวซวยจริงๆเลย -0-
    นึกไม่ออกว่าตรงนั้นมีป้ายเลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟด้วย
    ถึงว่า เห็นอยู่หลายครั้งละ ว่าทำไมชอบมีจราจรไปยืนอยู่หน้าวัด
    คิดว่าจับรถ u turn ซะอีกอะ

    ตอบลบ
  5. ไม่จ่ายทีเอาไว้ดูเล่นก่อน ลือมโทรศัพท์ไว้นะหนูมีคนโทรมาเยอะเลยอะ

    ตอบลบ
  6. ปีที่แล้วผมโดนไปสองรอบ ส่วนตรงจุดที่โบ๊ทโดนนี้ จริง ๆ มีป้ายบอกนะ แต่ตำรวจจะไปยืนอยู่ตรงนั้นเป็นบางครั้ง ว่าแต่ สภ.คอหงษ์มันอยู่ตรงไหนอ่ะ

    ตอบลบ
  7. มันเปลี่ยนมาประมาณปีหนึ่งแล้วอะพี่

    แต่ที่จริงมันก็ควรแค่เลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัยก็พอ (เพราะผมก็เลี้ยวเลยออกจะบ่อย ๕๕๕)
    สงสัยคงเจอบางคันที่ไม่เข้าใจว่าเลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัย กับเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดต่างกันยังไงมั้ง

    ตอบลบ
  8. โดนไปสองร้อย กาแฟ 8 แก้ว

    ตอบลบ
  9. รู้สึกตรงนั้นก็เคยโดนจับเหมือนกัน แต่ตอนนั้นจำได้ว่าพี่ชายขับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวเอ๋ยตัวผม

กลอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเขียนขึ้นมาในห้องเรียนวิชาสัมนา 1 เพราะอาจารย์อยากให้แนะนำตัวเองเป็นกลอน ไม่รู้จะแต่งว่าไงเลยแต่งออกมาเป็นดอกสร้อย เห็นว่าพอใช้ได้เลยเอามาลงไว้เป็นอนุสร ๏ ตัวเอ๋ยตัวผม นิยมในพระพุทธศาสนา ตั้งจิตตั้งใจตั้งหน้า ใฝ่หาความรู้สู่ตน ตั้งใจศึกษาให้เชี่ยวชาญ ชำนาญในศาสตร์ที่ฝึกฝน ฝึกจิตฝึกสันดานให้เป็นคน เป็นชนในชาติที่ดีเอย ๚ะ๛

บันทึกการจัดงานศพ: พิธีฌาปนกิจศพ

ตรงส่วนนี้คงจะเขียนเกี่ยวกับพิธียกศพออกจากบ้าน และเกร็ดต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากที่จัดงานจะไม่นิยมไว้ศพที่วัด จะไว้ศพที่บ้าน และถ้าเป็นไปได้จะไว้ศพในบ้านเสียด้วยซ่ำ เมื่อถึงวันฌาปนกิจศพ หรือเผาศพ ก็จะมีการเซ่นไหว้ครั้งใหญ่ก่อนเคลื่อนย้ายศพไปวัดเพื่อฌาปนกิจ เครื่องเซ่นไว้จะประกอบไปด้วย ข้าว 5 ถ้วย กับข้าว 5 อย่าง หัวหมู ไก่ต้ม ไข่ต้ม หมูสามชั้นต้ม หมี่เหลืองผัด กุ้ง หอย ปู ปลา ผลไม้ 5 อย่าง ขนมขึ้น เมื่อมีการเซ่นไหว้ทุกครั้งจะต้องมี สัปรด น้ำชา 3 จอก เหล้าขาว 5 จอก(หลานๆ บอกว่าเจ็คไม่กินเหล้าขาว แต่มีคนบอกว่าเป็นการไหว้ตามประเพณี ^^ ) ซึ่งแต่ละอย่างมีความหมาย แต่ผมจำไม่ได้ต้องหาอีกครั้งนึง ตัวอย่างเครื่องเซ่นไหว้ เมื่อถึงพิธีเซ่นไหว้ จะมีการเซ่นไหว้โดยแบ่งออกเป็นคณะ แต่เพื่อความสะดวกและรวบรัดจึงมีการไหว้เพียงไม่กี่คณะ ซึ่งก็เหมือนเดิมคือผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่าจะไม่รวมการเซ่นไหว้ครั้งนี้ คณะแรกจะเป็นผู้ไกล้ชิดผู้ตายมากที่สุดเริ่มตั้งแต่ลูกและภรรยา หลังจากนั้นก็จะเป็นน้องๆ แล้วก็หลานๆ และก็มิตรรักและผู้คนที่นับถือผู้ตาย หากเป็นเมื่อสมัยก่อนนั้น ต้องแยกออกเป็นเขย เป็นสะไภ้ ไหว้กันหลายยกหล

ด้วยระลึกถึงคุณย่า บันทึกจากความทรงจำ

บันทึกนี้เขียนขึ้นเพื่อบันทึกความทรงจำของผมที่มีต่อคุณย่าที่ล่วงลับไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนคืน คุณย่าเปรียบเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ร้อยครอบครัวใหญ่ของเราเอาไว้ไม่ให้แตกแยก หลังจากที่เสียคุณปู่ไปเมื่อ 23 ปีก่อน เนื่องจากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต มีชาวจีนอาศัยอยู่มาก แต่มักจะเป็นชาวจีนที่อพยพมาไทยนานแล้ว จากการการสังเกตของผม ชาวจีนแถบนี้โดยมากน่าจะเป็นชาว เปอรานากัน หรือชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแล้วตั้งถิ่นฐานอยู่ในแหลมลายูหรืออินโดนีเซีย แล้วหลังจากนั้นจึงอพยพมาอาศัยต่อที่ประเทศไทย จากการบอกเล่าของคุณแม่ ก๋งเคยเล่าให้ฟังว่าตอนยังเด็กเคยแจวเรือจ้างอยู่ที่ปีนัง คุณย่าเคยเล่าว่าเป็นชาวฮกเกี้ยน อีกทั้วจากรูปวาดคุณย่าทวดที่มีการเกล้ามวยผม สวมเสื้อคอลึก ส่วนทางบ้านมีการใช้คำเรียกจีนผสมไทยถิ่นใต้อยู่มาก ผู้หญิงทุกคนนิยมสวมผ้าปาเต๊ะ เสื้อลูกไม้ (เสื้อฉลุลายดอกไม้) อาหารการกินเป็นแบบชาวไทยถิ่นใต้ทุกประการ (กินน้ำพริก แกงส้มเก่งกันทุกคน ยกเว้นก๋ง :D) อีกทั้งก๋งเกิดที่ดินแดนแถบนี้ไม่ได้เดินทางมาจากเมืองจีน (บางทีเรียก เตี่ยต่อเตี่ย คือ ทวดมาจากจีน ส่วนสถานที่เกิดไม่แน่ใจว่าเป็นปีนังหรือไทย)